About Us

บริษัท พี. ภมร อินเตอร์เทรด จำกัด

บริษัท พี. ภมร อินเตอร์เทรด จำกัด ได้จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2543 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1 ล้านบาท ถือหุ้นโดยคนไทย 100% ดำเนินการเป็นตัวแทนจำหน่ายไม้อัด ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 บริษัทได้ขยายกิจการด้วยการลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตวัสดุตกแต่งเพื่อปิดผิวไม้ ซึ่งเป็นการพิมพ์ลวดลายเลียนแบบลายธรรมชาติลงบนกระดาษและฟิล์ม OPP เช่น ลายไม้สักโอ๊ค มะฮอกกานี ลายหินอ่อน ลายผ้า ลายดอกไม้ ลายไผ่ เป็นต้น เพื่อใช้ปิดผิวไม้ MDF และไม้ปาร์ติเกิ้ลสำหรับงานอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์  บริษัทใช้ระบบกราเวียร์ในการพิมพ์ด้วยเครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน สามารถทำสีและลวดลายได้หลากหลายตามที่ลูกค้าต้องการ

ในปี 2560 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนและชำระเต็มจำนวนด้วยมูลค่า 32 ล้านบาท  และในช่วงปลายปี บริษัทได้ย้ายที่ตั้งโรงงานจากจังหวัดสมุทรปราการมาดำเนินการผลิตที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ได้มีการลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ที่ทันสมัยเพื่อขยายกำลังการผลิต  ประกอบกับการควบคุมกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานโดยทีมงานช่างมืออาชีพ ทำให้ในปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 30 ล้านเมตร/ปี

บริษัทได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อที่จะสนับสนุนเป้าหมายการรักษาสิ่งแวดล้อม  ทางบริษัทจึงได้มีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบการพิมพ์กระดาษจากสีน้ำมัน (Solvent based) มาเป็นสีน้ำ  (Water based) เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และเพื่อให้ใกล้เคียงกับความรู้สึกของไม้จริงและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเราจึงได้พัฒนาให้มีการพิมพ์ลวดลายกระดาษในรูปแบบสามมิติ กล่าวคือมีลักษณะการนูนของลายเส้น ลายเสื้ยนไม้ ให้ความรู้สึกเสมือนไม้จริงมากขึ้นเมื่อสัมผัส

จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา บริษัท พี. ภมร อินเตอร์เทรด จำกัด ตั้งมั่นในปณิธานที่จะรักษาคุณภาพของสินค้ารวมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่ให้เป็นที่ยอมรับ  และจากการให้บริการที่ดีที่เราให้กับลูกค้าทำให้เราได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาโดยตลอด   เป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทแรกที่ลูกค้านึกถึงในวงการอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์

นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งมั่นที่ได้ตั้งไว้  จนทำให้บริษัทฯ เข้าสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 2 (ระดับปฏิบัติการสีเขียว)  ได้รับใบรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565   ซึ่งนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ มีดังนี้

1. การรักษาสิ่งแวดล้อมและการป้องกันมลพิษ
บริษัท ฯ ได้ตระหนักและ มุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมรวมถึงการป้องกันมลพิษ และปรับปรุงสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งจากการอุปโภคบริโภค การควบคุมปริมาณของเสีย และจัดให้มีการทำความสะอาดในทุกๆวัน เพื่อจัดการทรัพยากรในสถานที่ทำงาน ลดวัสดุอุปกรณ์สิ้นเปลือง คัดแยกและการจัดการสำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ก่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อสถานที่ทำงานและสิ่งแวดล้อม

2. เลือกใช้วัตถุดิบในการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
– บริษัทฯ มีนโยบายปรับเปลี่ยนวัตถุดิบการพิมพ์ จากสีน้ำมัน (Solvent based) มาเป็นสีน้ำ (Water based) เพื่อ ลดปัญหามลพิษทางอากาศ นอกจากนั้นแล้วบริษัทฯ ยังมีนโยบายลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้สารเคลือบผิวบนกระดาษพิมพ์สูตรน้ำแทนสูตรเคมี เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสินค้าของบริษัทฯ เราได้มาตรฐานทั้งคุณภาพ ความปลอดภัยต่อสุขอนามัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

-เพิ่มการใช้วัตถุดิบกระดาษพิมพ์ที่ทำมาจากเยื่อกระดาษที่ได้จากป่าไม้เชิงพาณิชย์ ที่มีการจัดการอย่างถูกต้อง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีการปลูกป่าทดแทน

3. อนุรักษ์พลังงานและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
– รณรงค์ให้พนักงานทุกคนใช้ทรัพยากรน้ำ / ไฟอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่าที่สุด เช่น ให้ปิดไฟช่วงพักกลางวัน , ปิดแอร์ก่อนเวลาเลิกงาน , การเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าตามเวลาที่กำหนด เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะหลอดไฟ เครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารโรงงานและสำนักงาน

-ช่วยบรรเทาปัญหาสภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นั่นคือ พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์

4. ให้ความรู้เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงานกับพนักงาน

พนักงานทุกคนจะต้องรับทราบและถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ และพัฒนางานด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย ให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ จะอำนวยการในเรื่องงบประมาณ กำลังคน และเวลา อย่างเหมาะสม เพื่อให้พนักงานทุกคนนำนโยบายไปปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย

วิสัยทัศน์

บริษัทแสวงหาโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจการพิมพ์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เพื่อที่จะได้ขยายตลาดไปยังประเทศกลุ่มอาเซี่ยน

­­­